Last updated: 15 พ.ย. 2562 | 1170 จำนวนผู้เข้าชม |
การประชุมเร่งพัฒนาพื้นที่จังหวัดกลางตอนล่าง 1
ในระหว่างวันที่ 11 – 12 พฤศจิกายน 2562 ที่ผ่านมา พล.อ. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้เป็นประธานการประชุมนอกสถานที่อย่างเป็นทางการในเรื่องเกี่ยวกับการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมกลุ่มจังหวัดภาคกลางตอนล่าง 1 ที่ประกอบไปด้วย 3 จังหวัดคือ กาญจนบุรี ราชบุรี และสุพรรณบุรี การประชุมในครั้งนี้จัดขึ้น ณ จังหวัดกาญจนบุรี
ภายในการประชุมครั้งนี้มีเนื้อหาสำคัญที่จะเร่งพัฒนาพื้นที่เศรษฐกิจและสังคมกลุ่มจังหวัดภาคกลางตอนล่าง 1 โดยมีการวางวิสัยทัศน์ในการเป็นศูนย์กลางการผลิตและการตลาดสินค้าภาคเกษตร อุตสาหกรรมปลอดภัย และการท่องเที่ยวคุณภาพและสนับสนุนการค้าผ่านแดนในเขตภาคตะวันตก อีกทั้งยังจัดระบบการพัฒนาให้สอดคล้องกับแนวทางการพัฒนากรุงเทพมหานคร มีการเชื่อมต่อการคมนาคมขนส่งและแหล่งท่องเที่ยวร่วมกัน เพื่อเป็นการกระจายความเจริญและรายได้ออกมายังพื้นที่รอบนอก
มีการสนับสนุนให้เปิดประตูการค้า การลงทุนและการท่องเที่ยว เชื่อมโยงเขตเศรษฐกิจพิเศษทวาย พื้นที่ภาคกลางและเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) โดยดำเนินการ 4 เรื่องที่สำคัญ ได้แก่
1. พัฒนาทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองและรถไฟ เชื่อมกรุงเทพฯ – กาญจนบุรี เพื่อเชื่อมโยงเศรษฐกิจพิเศษชายแดนกับพื้นที่เศรษฐกิจหลักของไทย อีกทั้งยังมีการเชื่อมท่าเรือระหว่างท่าเรือทวาย แหลมฉบัง และสีหนุวิลล์
2. เร่งพัฒนาพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษบ้านพุน้ำร้อน อ.เมือง จ.กาญจนบุรี ให้เป็นประตูเชื่อมระเบียงเศรษฐกิจภาคใต้ (เอสอีซี) จากท่าเรือทวาย ท่าเรือแหลมฉบัง และเชื่อมต่อไปยังประเทศกัมพูชาที่ท่าเรือสีหนุวิลล์ แล้วตรงไปที่ท่าเรือวังเตา ประเทศเวียดนาม การเชื่อมต่อในครั้งนี้จะทำให้เกิดระเบียงเศรษฐกิจที่สมบูรณ์และได้ประโยชน์ร่วมกันหลายประเทศ
3. พัฒนาการเชื่อมโยงทางการค้า การลงทุน และการท่องเที่ยวในบริเวณด่านชายแดนไทย – เมียนมา มีการปรับปรุงและพัฒนาระบบโลจิสติกส์ สาธารณูปโภค จุดบริการและสิ่งอำนวยความสะดวกบริเวณจุดผ่านแดน ตลอดจนกฎระเบียบที่เกี่ยวข้อง
4. พัฒนาพื้นที่เมืองและพื้นที่เศรษฐกิจของภาคกลางตามแนวแกนหลักการเชื่อมโยงเศรษฐกิจพิเศษทวายกับอีอีซี โดยจัดเตรียมระบบสาธารณูปโภครองรับกิจกรรมทางเศรษฐกิจเพื่อให้เอื้อต่อการพัฒนาการค้า การลงทุน และท่องเที่ยวระหว่างไทย-เมียนมา
ในการประชุมครั้งนี้ได้รับข้อเสนอจากทางภาคเอกชนในการพัฒนากลุ่มจังหวัดภาคกลางตอนล่าง 1 ทั้ง 7 ด้าน โดยให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทำการศึกษารายละเอียด หารือและจัดลำดับความสำคัญของโครงการ ทั้งนี้มีโครงสร้างพื้นฐานเห็นชอบในหลักการ 10 โครงการ มีวงเงินงบประมาณรวม 6,224 ล้านบาท
รัฐบาลมีความประสงค์ที่จะผลักดันให้กาญจนบุรี และราชบุรี ให้เป็นแหล่งอุตสาหกรรมแปรรูปผลผลิตทางการเกษตรและปศุสัตว์ และกลุ่มอุตสาหกรรมสิ่งทอที่เชื่อมโยงการผลิตในเมียนมา โดยเพิ่มประสิทธิภาพระบบโลจิสติกส์ การเพิ่มมาตรฐานอุตสาหกรรมในพื้นที่ให้มีความทันสมัยและได้มาตรฐานเพื่อส่งออกสู่ตลาดนอกประเทศ และต้องการผลักดันให้พื้นที่ภาคกลางตอนล่าง 1 เป็นพื้นที่ศูนย์กลางการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ประวัติศาสตร์ภาคตะวันตกและอารยธรรมทวารวดี มีการพัฒนาศักยภาพบุคลากรด้านการท่องเที่ยว ทั้งผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยว และชุมชนให้พร้อมรับการพัฒนาการท่องเที่ยว
รัฐบาลได้เร่งพัฒนาประเทศรองรับเหล่านักลงทุนจากต่างประเทศเข้ามาในโครงการ อีอีซี เป็นการกระตุ้นระบบเศรษฐกิจ และพัฒนาเทคโนโลยีภายในประเทศให้มีความทันสมัยและก้าวหน้าไปพร้อมกัน ทั้งนี้หากคุณมีความต้องการอยากติดต่อการค้าระหว่างไทย – จีน เราช่วยคุณได้เพียงติดต่อมาที่ บริษัท ไทยฮัวโฟร์ยู จำกัด https://www.thaihua4u.net/ หรือโทร 083-0904009 เรามีบริการจัดหา สั่งซื้อ และนำเข้าสินค้าผลิตภัณฑ์จากประเทศจีนจัดส่งถึงคุณทั่วประเทศไทย
แหล่งอ้างอิง
Spring News online, “บิ๊กตู่” ลุย ครม.สัญจร “สศช.” ชงฟื้นแผนเชื่อมทวาย-อีอีซี, วันที่ 10 พฤศจิกายน 2019. จาก https://www.springnews.co.th/politics/572273
Easy Branches, รัฐบาลเร่งระเบียงตะวันตก เชื่อมเศรษฐกิจ “อีอีซี”, วันที่ 13 พฤศจิกายน 2019. จาก https://thainews.easybranches.com/business/917812
25 พ.ย. 2562
25 พ.ย. 2562
28 ต.ค. 2563